อยากให้ลูกค้าค้นเจอข้อมูลสินค้าหรือบริการของเราในอันดับต้น ๆ สิ่งที่สำคัญอันดับแรก ๆ ที่เราต้องปรับแต่งก็เห็นจะหนีไม่พ้น การตั้งชื่อสินค้าให้คนเสิร์ชเจอเรา ถัดมาก็คือคำคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ที่เราจะใช้ในการทำคอนเทนต์ บทความนี้เราเลยจะพาทุกคนไปพบกับขั้นตอนการค้นหา Keywords ทั้งที่จะนำมาใช้ตั้งชื่อสินค้า และใช้ในการทำคอนเทนต์ของเรากันค่ะ
สำหรับขั้นตอนการหาคีย์เวิร์ดของเราจะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลัก โดยมีรายเอียดดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: ค้นหา Keywords จากผลการค้นหาใน Google
![คำค้นหา](https://blog.lnwshop.com/wp-content/uploads/2022/04/capture-20170702-132119-1024x558.png)
เคยไหมคะ ที่เวลาค้นหาข้อมูลใน Search Engine อย่าง Google แล้วคิดไม่ออกว่าจะเสริชคำว่าอะไรดี วิธีค้นหาคีย์เวิรดสำหรับใช้งานในร้านค้าของเรา ก็ใช้วิธีเดียวกันกับเวลาที่คิดคำค้นหาไม่ออกได้ด้วยเหมือนกัน วิธีที่ว่านี้ก็คือ
- เสิร์ชคีย์เวิร์ดกว้าง ๆ ที่คิดว่าจะมีคนค้นหา
- เลื่อนลงไปด้านล่างสุดของหน้าผลการค้นหา เพื่อดู “การค้นหาที่เกี่ยวข้อง” กับ Keyword ที่เราค้นหา
เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้คีย์เวิร์ดสำหรับเอามาปรับใช้ในการขายของออนไลน์ละล่ะ
ก่อนกดค้นหา ควรเข้าใช้งานบราวเซอร์ในโหมด Private Browser หรือ Incognito เพื่อให้ได้ผลการค้นหาที่แท้จริง ไม่อิงกับประวัติการค้นหาของเรา
ทั้งนี้ให้เราเลือกลิสคีย์เวิร์ดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเราออกมาก่อน โดยอาจจะกดต่อไปยังคำค้นหาที่เกี่ยวข้องเรื่อย ๆ เพื่อลิสคีย์เวิร์ดออกมาให้เยอะที่สุด โดยยังไม่ต้องเลือกนะคะว่าจะใช้คีย์เวิร์ดไหน เราแค่ลิสไว้ก่อนเท่านั้น ที่สำคัญคือให้เลือกเฉพาะคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเราจริง ๆ
ขั้นตอนที่ 2: ค้นจากเว็บไซต์ Marketplace ต่าง ๆ
![](https://blog.lnwshop.com/wp-content/uploads/2022/04/ค้นหาจาก-marketplace-1024x491.png)
ส่วนใหญ่แล้วเว็บไซต์จำพวก Marketplace หรือ Classified มักจะพยายามแนะนำคำค้นหาให้กับผู้ซื้อ โดยมักจะเลือกเอาคำที่มีผู้ซื้ออื่น ๆ เลือกซื้อบ่อยมาแสดงผล ดังนั้นเว็บเหล่านี้จึงเป็นแหล่งค้นหา Keywords ที่ดีสำหรับร้านค้าออนไลน์อีกแหล่งนึงค่ะ ดังนั้นเราจึงสามารถใช้เว็บไซต์เหล่านี้ในการตามหาคีย์เวิร์ดที่คิดว่าจะมีคนค้นหาได้เช่นเดียวกับการใช้ Google Search เลยค่ะ แต่แน่นอนว่าเรายังไม่รู้ว่าคำไหนดีไม่ดียังไง เราแค่มาลิสไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวในขั้นตอนต่อไปเราจะเอาคีย์เวิร์ดที่ลิสได้เหล่านี้มาดูกันอีกทีค่ะว่าควรจะเลือกใช้คำไหน
ขั้นตอนที่ 3: ใช้โปรแกรม Keywords Finder
ต้องบอกว่า ถึงแม้เราจะได้คีย์เวิร์ดมาจากวิธีการที่ 1-2 แล้ว แต่คีย์เวิร์ดที่ได้มา ยังไม่แน่ใจว่าจะมีประสิทธิภาพพอ วิธีการค้นหาคีย์เวิร์ดผ่านโปรแกรมเหล่านี้จะช่วยคอนเฟริมให้คุณอีกครั้งว่าคีย์เวิร์ดที่หามานั้น ใช้การได้ดีแค่ไหน โดยเราจะดูสองอย่างหลัก ๆ คือ คำที่เราหามานั้นคำไหนมีคนค้นหาเยอะ และมีคู่แข่งมากน้อยแค่ไหน โดยเราจะเลือกใช้คำที่ มีคนค้นหาเยอะ แต่คู่แข่งน้อยเป็นหลักค่ะ และโดยปกติแล้วเราจะใช้คีย์เวิร์ดไม่เกิน 5-10 คำ ต่อสินค้าหรือบริการหนึ่งประเภทนะคะ
สำหรับโปรแกรมค้นหาคีย์เวิร์ดที่เราจะแนะนำกัน จะมีดังนี้ค่ะ
1. Google Trends
![google trends](https://blog.lnwshop.com/wp-content/uploads/2022/04/เปรียบเทียบผลลัพธ์การค้นหา-1024x491.png)
ตัวนี้เป็นเครื่องมือฟรีของ Google ที่ฟรีจริง ๆ และยังคงใช้ฟรีอยู่จวบจนปัจจุบัน เหมาะสำหรับการเปรียบเทียบคีย์เวิร์ดแบบละเอียด หลังจากที่ได้ลองหาคีย์เวิร์ดมาอย่างละเอียดแล้วจากเว็บไซต์สองตัวด้านบน เพราะเว็บไซต์นี้จะแสดงผลเป็นรายสัปดาห์ ย้อนหลังได้ไปเป็น 10 ปีเลยทีเดียว ถือว่าเป็นเครื่องมือฟรีที่ดีมาก ๆ
แต่ข้อเสียของมันอยู่ที่ ไม่ได้แสดงจำนวนคนค้นหาจริง ๆ เว็บไซต์นี้เหมาะกับการเปรียบเทียบคีย์เวิร์ดมากกว่า ดังนั้นผมมักจะใช้ในการเปรียบเทียบคีย์เวิร์ดอย่างเดียว เพราะมันจะให้ค่าเต็ม 100 ไม่ว่าคีย์เวิร์ดนั้นจะมีปริมาณการค้นหาอยู่เท่าไหร่ มันก็จะสูงสุดที่ 100 ดังนั้น มันจึงเหมาะกับการเอาไว้เปรียบเทียบคีย์เวิร์ดอย่างมาก
สำหรับใครที่อยากดูคำคีย์เวิร์ดที่ Google Trends แนะนำเพิ่มเติม นอกจากการดูเทรนด์แล้ว ให้เลื่อนหน้าจอลงมาด้านล่างจะพบกับข้อมูลดังกล่าวนะคะ
![](https://blog.lnwshop.com/wp-content/uploads/2022/04/แนวโน้มการค้นหา-1024x336.png)
ซึ่งถ้าดูจากในรูปตัวอย่างจะเห็นว่าตอนนี้คนเสิร์ชคำว่ามะม่วง อกร่องในอัตราเท่า ๆ กับการเสิร์ชหาคำว่ามะม่วงเฉย ๆ และยังมีการเสิร์ชหา มะม่วง อกร่อง ทอง, มะม่วง อกร่อง ราคา, และมะม่วง อกร่อง พิกุลทอง และเทรนด์ตอนนี้คนเริ่มมีการเสิร์ วิธี บ่ม มะม่วง อกร่อง เพิ่มขึ้นถึง 250% เสิร์ช ราคา มะม่วง อกร่อง วัน นี้ เพิ่มถึง 160% ซึ่งจากข้อมูลเหล่านี้ เราจะได้คำตอบว่า ถ้าเราจะขายมะม่วงอกร่อง ตอนนี้ที่นิยมในตลาดคือพันธ์อะไร และเวลาที่เราจะทำคอนเทนต์เพื่อโปรโมทสินค้าของเราควรจะทำคอนเทนต์ในเรื่องไหน และใช้คีย์เวิร์ดอะไรในการทำให้คนค้นหาเจอสินค้าของเรา
2. Google AdWords Keyword Planner
![Google AdWords Keyword Planner](https://blog.lnwshop.com/wp-content/uploads/2022/04/google_keywords_planner.png)
อีกหนึ่งโปรแกรมที่อยากแนะนำกันก็คงหนีไม่พ้น Google AdWords Keyword Planner หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ Google Keyword Tool นั่นเองค่ะ ซึ่งตัวโปรแกรมนี้ก็สามารถดูข้อมูลเชิงลึกของคีย์เวิร์ดได้ รวมถึงยังประเมินราคาการลงโฆษณาให้ด้วยนะ
3. KW Finder
![](https://blog.lnwshop.com/wp-content/uploads/2022/04/app.kwfinder.com_.png)
เว็บไซต์ตัวนี้แสดงผลเหมือนกับ Google Keywords Planner มากที่สุด เพราะพอใส่คำที่เราต้องการไปแล้ว มันจะแสดงผลออกมาเป็นคีย์เวิร์ดแนะนำอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกับคำที่เราใส่ไป จำนวนคนค้นหาโดยประมาณที่ค่อนข้างตรงกับ Google Keywords Planner อยู่พอสมควรเลยทีเดียว
แต่ก็มีข้อจำกับอยู่เหมือนกัน ตอนที่ลองใช้ครั้งแรก จำกัดการค้นหาอยู่ที่ 5 ครั้งต่อวัน ผ่านมาหลายเดือนเหลือ 3 ครั้งต่อวัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าตอนที่ทุกท่านอ่านบทความนี้อยู่นั้น เขาจะปรับลดไปเหลือเท่าไหร่แล้ว
ถ้าให้คะแนน สำหรับเครื่องมือฟรีแล้ว ตัวนี้ผมแนะนำเป็นอย่างมาก เจอใครผมก็บอกต่อให้เขาเข้าไปใช้ เพราะการแสดงผลที่ละเอียดมาก แถมมีช่องประเมินคู่แข่งมาให้อีก เป็นส่วนที่ Google Keywords Planner ไม่มี
4. Keyword Tool Dominator
![](https://blog.lnwshop.com/wp-content/uploads/2022/04/ktd-1024x475.jpeg)
ใครที่ต้องการค้นหาคีย์เวิร์ดนภาษาอังกฤษ Keyword Tool Dominator เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ เพราะระบบ การค้นหาคีย์เวิร์ดของเว็บนี้ ให้เราสามารถเลือกค้นหาคีย์เวิร์ดจากเว็บ หรือรูปแบบที่เราสนใจ เช่น ค้นหาจาก Youtube หรือ Google Shoppping ได้นั่นเอง เรียกว่าการใช้งานระบบนี้จะทำให้ได้คีย์เวิร์ดที่ลึก และตรงกับ Target ได้มากขึ้นนั่นเอง!
และนี่ก็คือ 3 ขั้นตอนในการตามหาคีย์เวิร์ดมาใช้ในการทำคอนเทนต์เพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการของเรานั่นเองค่ะ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้เป็นเพียงขั้นตอนเริ่มต้นของการทำ SEO หรือการทำให้คอนเทนต์ของเราติด Search ในอันดับต้น ๆ ของ Google เท่านั้น หากใครต้องการทำให้ติดเสิร์ชจริง ๆ ลองไปศึกษาขั้นตอนการทำ SEO เพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ
และอย่างไร อย่าลืมนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ ได้ผลลัพธ์อย่างไร แวะมาแชร์กันบ้างนะ!
บทความอ้างอิง
Leave a Comment