Performance Max หรือโฆษณา PMax โฆษณารูปแบบใหม่จาก Google จะมีการใช้ AI ที่ชื่อว่า Performance Max ในการคิดวิเคราะห์ว่าโฆษณาของเรา ควรแสดงผลให้กับใคร และในช่องทางไหน วันนี้ LnwShop Pro เลยจะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า แล้ว PMax มีวิธีการคิดอย่างไร และเราจะต้องเซ็ตอัพยังไง เพื่อให้ AI ทำงานได้ดี
แต่อย่างไรก็ดีต้องออกตัวก่อนว่า Google ไม่เคยบอกตรง ๆ ว่า AI มีการทำงานอย่างไรแบบทั้งหมด ซึ่งผู้เขียนจะเขียนจากสิ่งที่ Google เล่ามาบางส่วน และร่วมกับข้อมูลที่ได้รวบรวมจากที่ LnwShop Pro ได้มีการใช้งาน PMax ร่วมถึงความคิดเห็นจากแหล่งต่าง ๆ มาเล่าให้ฟัง
เนื้อหาในบทความ
วิธีการคิดของ AI ใน Performance Max
วิเคราะห์ข้อมูลจาก Audience Signal
เริ่มแรกเลย Google บอกว่า AI จะตามดู Audience Signal ว่าผู้ซื้อมีแนวโน้มที่จะสั่งซื้อสินค้าชนิดนั้นไหม หากมีแนวโน้มที่จะสั่งซื้อก็จะมีการแสดงผลโฆษณาขึ้นมา ซึ่งส่วนนี้เข้าใจว่า Google จะมีการเก็บข้อมูลว่า ผู้ใช้รายนี้มีการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดคำว่าอะไร คำ ๆ นั้นดูมีแนวโน้มเป็นคำที่ค้นเพื่อซื้อ หรือค้นเพื่อหาข้อมูลมากกว่ากัน และมีการค้นหาบ่อยแค่ไหน ซึ่งตรงนี้จะเกิดจากการที่ AI เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ที่เก็บข้อมูลไปจนถึงการสั่งซื้อ ทำให้รู้ว่า หากมีการค้นหาด้วยคำประมาณนี้ หรือความถี่ประมาณนี้ น่าจะมีแนวโน้มการสั่งซื้อ ก็จะเลือกแสดงโฆษณาขึ้นมา
แต่ทั้งนี้ในบางครั้ง หากข้อมูลยังไม่เพียงพอ Ads อาจจะมีการแสดงผลในคำค้นหาทั่วไป เพื่อทดสอบดูว่าคำเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดการสั่งซื้อได้ไหมด้วยเช่นกัน
เลือกแสดงตาม Keywords และ Context ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนการเลือกว่าจะแสดงผลสินค้าชิ้นไหน ผู้เขียนคาดว่า Google จะเลือกจากคีย์เวิร์ดที่อยู่ในชื่อสินค้าเป็นหลัก รองลงมาคือ Context ของชื่อ และข้อมูลสินค้า ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ซึ่งก่อนหน้านี้ใน Smart Shopping Campaign (AI เดิมก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น PMax) ก็เคยมีเคสที่นำโฆษณาสินค้าของแบรนด์ที่จำหน่ายเกี่ยวกับเครื่องราง ไปแสดงผลเมื่อผู้ใช้ค้นหาคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเครื่องราง โดยที่คำ ๆ นั้นไม่มีอยู่ในชื่อ หรือรายละเอียดของสินค้าเลย นั่นหมายความว่า AI ไม่ได้ดูแค่ Keywords แต่ยังดู Context ของข้อมูลด้วย
เลือกพื้นที่การแสดงผล ตามการใช้งานของผู้ใช้
สำหรับการเลือกว่าจะแสดงผลโฆษณาขึ้นในพื้นที่ไหนบ้าง ผู้เขียนเข้าใจว่า AI จะเลือกจากว่าผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะสั่งซื้อ มีการใช้งานแพลตฟอร์มไหนของ Google อยู่ ก็จะแสดงผลข้อมูลโฆษณาขึ้นมาในช่องทางเหล่านั้น เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้กดคลิกเข้าเว็บไซต์ และกลายเป็นผู้ซื้อนั่นเอง
สุดท้าย Remarketing ไปยังคนเข้าเว็บเดิม
และสุดท้าย AI จะมีการแสดงผลโฆษณาในรูปแบบของ Remarketing ไปยังผู้ใช้ที่เคยเข้าเว็บไซต์สินค้านั้น ๆ เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้กลับมาซื้อสินค้า หรือซื้อซ้ำอีกด้วย
ทำอย่างไรให้ Performance Max Ads ของเรามีประสิทธิภาพ
จากข้อมูลที่ว่า AI ใช้อะไรในการคิดวิเคราะห์จะเห็นว่า ชื่อ-ข้อมูลสินค้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกที่ต้องให้ความสำคัญ และถัดว่าคือ Ads Source ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพสินค้า, แบนเนอร์โปรโมท, VDO โปรโมท หรือข้อความโฆษณาที่จะดึงดูดให้ผู้คนที่พบเห็นโฆษณาได้คลิกเข้ามายังเว็บไซต์สินค้าของเรานั่นเอง
การปรับแต่งชื่อสินค้า
สำหรับการปรับแต่งชื่อสินค้า เราแนะนำให้คุณนำ Keywords ที่สำคัญที่สุดของสินค้าชิ้นนั้น มาใส่ไว้ในตำแหน่งแรกสุด และใส่คำรายละเอียดสั้น ๆ เช่น สี, รุ่น, ไซส์ เพื่อขยายความว่าสินค้าชิ้นนั้น ๆ คืออะไร รวมถึงชี้เฉพาะให้ชัดว่าสินค้าชิ้นนั้นเป็นสินค้ารูปแบบไหน เพื่อให้ AI เข้าใจให้ได้มากที่สุดว่าสินค้าของเราเป็นสินค้าอะไร น่าจะเกี่ยวข้องกับการค้นหาในคีย์เวิร์ดแบบไหน
ทั้งนี้เรามีโครงสร้างที่แนะนำในการตั้งชื่อดังนี้
การปรับแต่งรายละเอียดของสินค้า
สำหรับรายละเอียดของสินค้า เราแนะนำให้คุณใส่ข้อมูลที่ 300 คำ โดยมีการใช้หลักการในการทำ SEO ในการเขียน (อ่านบทความเกี่ยวกับการทำ SEO ได้ที่นี่) นอกจากนี้คุณอาจจะใช้ภาพต่าง ๆ ประกอบกับการเล่ารายละเอียดได้ แต่ต้องไม่ลืมใส่ Alt tag ให้กับภาพนั้น ๆ ด้วย นอกจากนี้หากคุณรู้ว่าผู้คนส่วนใหญ่หามักจะมีคำถามอะไรที่เกี่ยวข้องสินค้าของเรา แล้วนำเอาคำถามนั้นมาเขียนตอบ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี แต่ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะใช้คำถามแบบไหน อาจจะลองเลือกจากคำถามที่พบบ่อยในธุรกิจของคุณมาใช้ก็ทำได้เช่นกัน และที่สำคัญอย่าลืมใส่ Call to action ไว้ในรายละเอียดของสินค้า
การปรับแต่งแบนเนอร์, วีดีโอ และคำโฆษณา
สำหรับแบนเนอร์, วีดีโอและคำโฆษณา เราแนะนำให้คุณสร้างคำโฆษณา วีดีโอและรูปภาพที่มีความน่าดึงดูดเมื่อพบเห็น มี Message ที่ชัดเจนว่าเราต้องการจะสื่อสารอะไร มีการไฮไล์สิ่งที่ทําให้คุณไม่เหมือนใครเอาไว้อย่างชัดเจน รวมถึงควรมีการระบุราคา โปรโมชัน และข้อเสนอพิเศษเอาไว้ นอกจากนี้ต้องไม่ลืมใส่ Keywords ไว้ให้เห็นอย่างเด่นชัด และสุดท้ายต้องมี Call to action เพื่อบอกให้คนที่ได้เห็นภาพ วีดีโอ หรือได้อ่านคำโฆษณาของเรา รู้ว่าควรต้องทำอะไรต่อ
ทั้งนี้ผู้เขียนได้มีการเขียนเทคนิคการสร้างคำโฆษณาที่ดีไว้ คุณสามารถคลิกไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ บทความการสร้างคำโฆษณาที่ดี สำหรับโฆษณา Performance Max
และสุดท้าย AI จะมีประสิทธิภาพ ต้องให้เวลา และข้อมูลที่มากพอในการเรียนรู้
ถึงแม้เราจะปรับแต่งข้อมูลต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของ Ads แล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการทำให้ AI ได้เรียนรู้ให้มากที่สุด ซึ่งจะมีสองสิ่งที่ทำให้ AI เรียนรู้ได้นั่นก็คือ การให้ระยะเวลาในการเรียนรู้ และข้อมูลที่มากพอในการเรียนรู้
สำหรับข้อมูลที่มากพอในการเรียนรู้ในที่นี้ นอกจากการปรับแต่งเว็บไซต์ตามรายละเอียดที่เล่าไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เรายังต้องสร้างการ Tracking ที่ดีในเว็บไซต์ เพื่อให้ AI ได้รู้ว่า คนที่เข้ามา คนไหนซื้อ คนไหนที่ไม่รู้ หรือคนไหนมีการคลิกที่จุดไหน รวมถึงต้องมีการให้น้ำหนักของ Conversion ต่าง ๆ อย่างชัดเจน เช่น ให้น้ำหนักกับการสั่งซื้อที่เสร็จสมบูรณ์มากที่สุด และให้น้ำหนักกับการคลิกไปแชทในช่องทางต่าง ๆ รองลงมาจากการสั่งซื้อเป็นต้น ซึ่งการทำระบบ Tracking ที่ดี จะช่วยให้ AI เรียนรู้ได้ถูกต้อง และแม่นยำ
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลที่บอกว่า AI ของ Performance Max Ads มีการทำงานอย่างไร และแนวคิดในการทำให้โฆษณา PMax ของเราประสบความสำเร็จ ยังไงอย่าลืมนำไปลองปรับใช้กับโฆษณาของคุณกันดูนะคะ
Leave a Comment