ปรับคอนเทนต์ เป็นเรื่องสำคัญในการขายของออนไลน์ เพราะการปรับแต่งคอนเทนต์มีโอากสที่จะทำให้เว็บติดอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาใน Google ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ วันนี้เราเลยมีแนวทางการปรับคอนเทนต์ในเว็บไซต์ของคุณในระบบ LnwShop Pro มาฝากกันค่ะ มีตรงไหนที่ปรับได้บ้าง และจะปรับยังไงดี บทความนี้มีข้อมูลมาแนะนำค่ะ
ปรับคอนเทนต์ ตามหลัก SEO
เนื้อหาในบทความ
1. Title, Description และ Keywords หลักของเว็บ
โดยการปรับในส่วนนี้จะเป็นการปรับข้อมูลคอนเทนต์ที่จะมีการแสดงผลในผลลัพธ์การค้นหาของ Google ของหน้าแรกของเว็บไซต์ของเรา ดังนั้นจึงเป็นส่วนแรกที่เราควรปรับแต่งค่ะ โดยการปรับแต่งในส่วนนี้จะปรับได้ที่ ระบบจัดการ LnwShop Pro > โปรโมท | การตลาด > ตั้งค่า SEO
ซึ่งการตั้งค่าในส่วนนี้จะแก้ได้ 3 จุดด้วยกันคือ Title ของเว็บไซต์, Description และ Keywords สำหรับหลักในการปรับแต่งข้อมูลในส่วนนี้จะมีดังนี้
Title
- ควรมี Keywords ที่เป็นคำอธิบายภาพรวมของเว็บไซต์อยู่ใน Title ถ้าเป็นคำแรกได้จะยิ่งดีมาก
- ความยาวไม่ควรเกิน 50 ตัวอักษร
- อ่านแล้วเข้าใจง่าย รู้ว่าเว็บไซต์นี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร
- สั้น กระชับ และดึงดูดความสนใจ
Description
- ควรมี Keywords ใน Description
- ความยาวไม่ควรเกิน 160 ตัวอักษร
- เป็นข้อความที่ขยายความ Title มาอีกที อ่านแล้วต้องเข้าใจง่าย และดึงดูดผู้อ่านรู้สึกสนใจ
Keywords
- เป็นคำ หรือวลีสั้น ๆ ที่บ่งบอกว่าเว็บไซต์ของคุณเกี่ยวข้องกับเรื่องใด
- ไม่ควรใส่เกิน 10 คำ
2. ปรับชื่อสินค้า
ในระบบของ LnwShop Pro เรามีการดึงเอาชื่อสินค้าไปใช้เป็น Title ของแต่ละหน้าสินค้า ก่อนที่จะตามด้วย Title หลักของเว็บไซต์ โดยหลักการตั้งชื่อสินค้าจะมีดังนี้
- มี Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าในชื่อสินค้า
- เขียนให้อ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ว่าเราต้องขายอะไร ไม่จงใจใส่แต่ Keywords
- สั้น กระชับ ยาวไม่เกิน 50 ตัวอักษร
- มีคำอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของสินค้า เช่น ชื่อแบรนด์, รุ่น, สี และ ขนาดเป็นต้น
นอกจากนี้ในการตั้งชื่อสินค้าในระบบของ LnwShop Pro ยังมีระบบที่เรียกว่า การตั้งชื่ออัตโนมัติ โดยระบบนี้จะให้คุณกรอกข้อมูลอธิบายลักษณะสินค้า โดยไม่ต้องกรอกลักษณะของสินค้าลงไปที่ชื่อสินค้า แต่เมื่อมีการแสดงผลข้อมูล จะมีการดึงเอาคุณลักษณะที่เรากำหนดไว้ขึ้นมาต่อท้ายชื่อสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งการใช้งานระบบนี้ จะช่วยทำให้ Google เข้าใจได้ง่ายขึ้น ว่าคำตรงไหนคือชื่อสินค้า และเข้าใจได้ว่าคำอื่น ๆ ที่นำมาต่อท้ายนั้นเป็นคุณลักษณะของสินค้าอีกด้วย
3. ปรับเนื้อหาคอนเทนต์ ข้อความไฮไลท์ และ รายละเอียดสินค้า
ไฮไลท์ และรายละเอียดสินค้า สองจุดนี้ต่างเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าทั้งคู่ แต่ไฮไลท์จะเป็นคำอธิบายแบบย่อ และรายละเอียดสินค้าเป็นคำอธิบายสินค้าแบบยาว ทั้งนี้ระบบจะมีการดึงเอาข้อความไฮไลท์ไปใช้เป็น Description ของหน้าสินค้านั้น ๆ แต่หากเราไม่ใส่ข้อความไฮไลท์ ระบบจะดึงรายละเอียดของสินค้าไปใช้แทน แนวคิดการกรอกข้อมูลไฮไลท์ และรายละเอียดสินค้ามีดังนี้
ไฮไลท์
- ควรมี Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้น ๆ
- ความยาวไม่ควรเกิน 160 ตัวอักษร
- เป็นคำอธิบายโดยย่อเกี่ยวกับสินค้า ที่อ่านแล้วสามารถเข้าใจง่าย
รายละเอียดสินค้า
- มีการแทรก Keywords ไว้ในรายละเอียดของสินค้า แต่ต้องเขียนให้เป็นธรรมชาติ ไม่ดูเหมือนตั้งใจใส่แต่ Keywords ลงไป
- ยิ่งเขียนยาวยิ่งดี
- หากเขียนยาว ควรมีการแบ่งหัวข้อ หรือทำเป็นลิสข้อความ เพื่อให้อ่านง่าย
- หากต้องการใส่รูป ให้ใส่ Alt ให้รูปด้วย
4. Hashtag
การใส่ Hashtag มีไว้เพื่อบอกโดยสรุปว่าหน้าสินค้านั้น ๆ เกี่ยวข้องกับอะไร และ Hashtag ยังถูกนำมาใช้เป็นหน้ารวมข้อมูลสินค้าที่ใช้ Hashtag เดียวกันด้วย การกรอกข้อมูล Hashtag มีรายละเอียดดังนี้
- กรอก Keywords ที่อธิบายเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนั้นลงไป ไม่เกิน 10 คำ
- ไม่ควรใช้ Keywords เดียวกับสินค้าทุกชิ้น ควรมีความแตกต่างกันในสินค้าแต่ละชิ้น
5. ปรับคอนเทนต์ในการเขียนบทความ
ในระบบของ LnwShop Pro มีระบบให้เราสร้างบทความได้ โดยการสร้างจะเข้าไปที่ ระบบจัดการ LnwShop Pro > โปรโมท | การตลาด > บทความ | เรื่องราว ซึ่งการเขียนบทความนอกจากจะช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของเราแล้ว ยังช่วยสนับสนุนการทำ SEO ได้อีกด้วย ทั้งนี้เรามีสรุปข้อมูลที่ควรทำในการเขียนบทความมาให้ดังนี้
- ชื่อบทความไม่ควรยาวเกิน 50 ตัวอักษร และควรมี Keywords อยู่ เพราะชื่อบทความจะถูกดึงไปใช้เป็น Title ของหน้า
- แทรก Keywords ที่ต้องการ และเกี่ยวข้องกับบทความไว้ในบทความ
- หากจะใส่รูปในบทความ ให้ใส่ Alt ให้กับรูปด้วย
- บทความควรยาวมากกว่า 300 คำ ขึ้นไป
- Tag ที่ใส่ ควรเป็นคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับบทความจริง ๆ และไม่ควรใส่เกิน 10 คำ
- ในส่วนเมนู SEO ของบทความ จะมีการดึงข้อมูลจากบทความมาให้อัตโนมัติ เราสามารถใช้ตามข้อมูลที่มีได้เลย โดยไม่ต้องปรับแต่ง ยกเว้น Description เพราะว่าข้อมูลส่วนนี้ดึงจากบทความมาตรง ๆ ไม่ได้มีการสรุปข้อมูลให้น่าอ่าน จึงควรมีการปรับ Description ให้กระชับ และสื่อความหมาย โดยจะต้องยาวไม่เกิน 150 ตัวอักษร
6. การปรับแต่งทั่วไปอื่น ๆ
นอกจากการปรับแต่งในจุดสำคัญที่ได้เล่ามาแล้วนั้น คุณยังสามารถปรับแต่งส่วนอื่น ๆ ของเว็บได้ดังนี้
- หากมีการใส่รูปภาพที่หน้าเว็บในหน้าใดก็ตามให้ใส่ Alt ของภาพเสมอ
- ควรมีการใส่สินค้าที่เกี่ยวข้องไว้ในหน้าสินค้า เพื่อเพิ่มโอกาสคลิกไปดูเพิ่มของลูกค้า ซึ่งจะส่งผลดีทั้งกับยอดขาย และ การทำ SEO
- ทำให้ทุกหน้าของเว็บไซต์ลิงก์หากัน อย่าสร้างหน้าเว็บที่ไม่มีทางออก
- รายละเอียดในหน้าเว็บต่าง ๆ ถ้ามีโอกาสเติม Keywords ได้ ให้เติม Keywords ไว้ แต่ต้องระวังไม่เขียน Keywords ที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้านั้น ๆ
และทั้งหมดนี้ก็คือแนวทางการปรับแต่งคอนเทนต์ในระบบเว็บ LnwShop Pro ตามแนวคิดของการทำ Search Engine Optimizatio (SEO) นั้นเองค่ะ ยังไงอย่าลืมเอาไปลองปรับกันดูนะคะ
Leave a Comment