คาดการณ์ E-Commerce Trends 2022

แนวโน้ม E-Commerce Trends 2022 ในปีนี้ จะมีอะไรที่น่าสนใจ มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เรามีบทวิเคราะห์มาฝากกันค่ะ

สำหรับใครที่อยากฟังเป็นคลิปเสียงสามารถฟังได้ที่ Youtube หรือ Soundcloud

E-Commerce Trends 2022

เทรนด์ที่ 1: ช่องทางออนไลน์ จะกลายมาเป็นช่องทางการขายหลัก

ด้วยสภาวะของโรคระบาดที่ยังไม่สิ้นสุด และวิถีชีวิตแบบ New Normal ที่เกิดขึ้น ผู้คนจะคุ้นเคยกับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่าแต่ก่อน ซึ่งนั่นทำให้แบรนด์จำเป็นต้องมีช่องทางการขายออนไลน์เพื่อเข้าถึงลูกค้าเช่นเดียวกัน และ บริการ Next Day Delivery จะเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะการจัดส่งแบบ Next Day ทำให้การซื้อของออนไลน์ และออฟไลน์มีประสบการณ์ที่แตกต่างกันน้อยลง เพราะการจัดส่งที่รวดเร็วจนถึงกับสั่งของวันนี้พรุ่งนี้ได้ของ และราคาค่าส่งก็ลดลงกว่าสมัยก่อน ทำให้ผู้คนหันมาจับจ่ายออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้น เพราะเหตุนี้เองในปี 2022 ช่องทางออนไลน์จึงจะกลายมาเป็นช่องทางหลักในการซื้อขาย

E-Commerce Trends 2022
E-Commerce Adoption – Thailand 83.56%

เทรนด์ที่ 2: Omni Channel Marketing ชัดเจนขึ้น

ในปี 2022 นี้ ไม่ใช่แค่ว่าพ่อค้าแม่ค้าต้องขายสินค้าในหลากหลายช่องทาง เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในหลากหลายแพลตฟอร์ม แต่การขายในหลายช่องทางในปีนี้ จะเป็นการขายเพื่อตอบโจทย์การค้นหาข้อมูลสินค้าในหลากหลายช่องทางของลูกค้าแทน ลูกค้าจะมีพฤติกรรมที่เริ่มค้นหาสินค้าในหลากหลายช่องทาง อาจจะค้นหาเว็บเพื่ออ่านข้อมูล แล้วเสิร์ชหาร้านใน Shopee เพื่อสั่งซื้อ หรืออาจจะค้นหา Facebook Page เพื่อแชทไปคุยก่อนสั่งซื้อ หรือนอกเหนือจากช่องทางออนไลน์ แนวคิดการสั่งของจากออนไลน์ แต่เข้าไปลองของหรือรับของในออฟไลน์ รวมถึงการไปทดสอบสินค้าจากออฟไลน์ และมาสั่งซื้อออนไลน์ก็กำลังเป็นแนวโน้มที่น่าสนใจ ดังนั้นแบรนด์จึงควรมีช่องทางการขาย และช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และยิ่งมีช่องทางที่หลากหลายเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์มากขึ้นด้วยค่ะ

ถ้าเป็นลูกค้าออฟไลน์กับออนไลน์ตอนนี้แทบไม่ต่างกัน เพราะส่วนใหญ่เขาดูออนไลน์มาหมดแล้ว แล้วพอเขามาถึงหน้าร้านเขาก็ถามว่ารุ่นนี้มีไหม พอมีของเขาก็ซื้อเลย

ร้านวิมลท่าแพ

เทรนด์ที่ 3: แบรนด์สินค้า จะลงมาขายของแบบ Direct to Consumer (DTC) มากขึ้น

ในปีที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้กระโดดเข้ามาขายสินค้าในช่องทางอีคอมเมิร์ซมากกว่าแต่ก่อน และให้ความสำคัญกับช่องทางการขายของแบรนด์ที่ส่งตรงถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์อย่าง Nike ในปี 2011 ยอดขายมากถึง 84% มาจากพันธมิตรช่องทางการขายเหล่านี้ ในขณะที่ยอดขายช่องทางของ Nike เอง ทั้งร้านสาขา และเว็บไซต์ ยังมีเพียง 16% แต่ในปีงบประมาณ 2021 (สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม) เพิ่มขึ้นเป็น 39% ขณะที่รายได้ที่มาจากธุรกิจค้าส่ง อยู่ที่ 61% และ Nike ยังวางแผนไว้ว่าภายในปี 2025 ยอดขายตรงถึงผู้บริโภค ที่นำโดยแพลตฟอร์มดิจิทัล จะเพิ่มขึ้นเป็น 60% อีกด้วย

เทรนด์ที่ 4: Live Stream Shopping จะฮิตมากยิ่งขึ้น

ปี 2021 เราได้เห็นการไลฟ์ขายของที่สามารถปิดยอดขายหลักร้อยล้านภายในการ Live ครั้งเดียวของพิมรี่พายกันแล้ว เชื่อว่าในปี 2022 นี้ กระแสการไลฟ์ขายของจะยังคงฮิต แต่คนที่ไลฟ์ขายจะไม่ใช่ Influencer หลักเสมอไป แต่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ออกมาไลฟ์กันเองมากขึ้น และจะเข้าถึงผู้ชมเฉพาะกลุ่มได้มากขึ้น

E-Commerce Trends 2022 -Live Stream Shopping

เทรนด์ที่ 5: Social Commerce

ปฎิเสธไม่ได้ว่าคนไทยใช้งาน Social Media กันเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก การ Live Stream Shopping เองก็เกิดขึ้นและในขณะที่ร้านค้าทั่วไปยังอาจจะมีปัญหาในการเปิดเพราะโควิด-19 แต่สื่อโซเชียลมีเดียกลับไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และนั่นทำให้ร้านค้าขนาดเล็กหันมาใช้โซเชียลมีเดียในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และถือเป็นอีกเรื่องที่ท้าทายสำหรับแบรนด์ขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน และสำหรับ Younger generations จะมีการเสิร์ชเพื่อค้นหาข้อมูลใน Social Media มากขึ้น (ค้นหาผ่าน Social Media 53.2% ค้นหาผ่าน Search Engine 51.3%)

Younger generations now turn to social networks to research brands more than search engines.

 The Social Commerce Trend – Hootsuite

และทั้งหมดนี้ก็คือเทรนด์ที่เรามองว่าจะเกิดขึ้นในตลาดอีคอมเมิร์ซปี 2022 สำหรับผู้อ่านที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ต้องลองนำบทวิเคราะห์นี้ไปคิดต่อยอดเพิ่มนะคะ ว่าเราจะสามารถทำอะไรกับแบรนด์ของเราได้บ้าง เชื่อว่ามีหลายอย่างที่นำไปประยุกต์ใช้ได้เลยล่ะค่ะ


อ้างอิง