การปรับแต่งคอนเทนต์ให้ติด Search ใน Social Media

จากผลวิจัยของ Hootsuite ที่บอกว่า Younger Generations จะมีการเสิร์ชเพื่อค้นหาข้อมูลในโซเชียลมีเดียมากขึ้น จากข้อมูลนี้เองทำให้เราต้องหันมาให้ความสนใจกับการ “ค้นหาข้อมูล” ผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น แต่เราจะต้องปรับตัวยังไง และต้องทำอะไรบ้าง เรามีแนวคิดการทำการปรับแต่งคอนเทนต์ให้ติด Search ใน Social Media มาฝากค่ะ

เมื่อ Younger Generations เปลี่ยนวิธีการ Search

แต่เดิมผลการสำรวจหรือผลวิจัยต่าง ๆ มักจะบอกว่า ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตมีการค้นหาข้อมูลผ่าน Search Enginge โดยมี Google เป็นเครื่องมือแรกในการค้นหา แต่ว่าในปัจจุบันโซเชียลมีเดียได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดย Hootsuite ได้บอกว่า ในตอนนี้ Younger Generations มีการค้นหาผ่านถึง Social Media 53.2% ในขณะที่ค้นหาผ่าน Search Engine เพียง 51.3% เท่านั้น

ซึ่ง Younger Generations ที่ Hootsuite ได้พูดถึงนี้คือกลุ่มคนอายุ 16-24 ปี ซึ่งในอนาคตคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

Social Media ไม่ได้มีแค่ Facebook

แต่ทั้งนี้การที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่อายุ 16-24 ปี มีการค้นหาข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นนั้น ก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียง โซเชียลมีเดียที่เป็นที่นิยมที่สุดอย่าง Facebook แต่ยังรวมถึง Social Media อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Instagram, Tiktok หรือ Twitter

จากกราฟด้านบนจะเห็นว่าสื่อโซเชียล ที่มีคนเล่นเยอะที่สุดในไทยคือ Youtube รองลงมาคือ Facebook, Line, Messenger, Instagram, Twitter, Tiktok และ Pinterest ตามลำดับ

รู้จักโซเชียลมีเดียยอดฮิตในไทย

ก่อนที่เราจะไปทำคอนเทนต์ให้ค้นหาง่ายในแต่ละ สื่อโซเชียลเราต้องมาดูก่อนว่าโซเชียลมีเดียไหนที่เราสามารถใช้ในการ Search หาข้อมูลได้ และสามารถค้นได้อย่างไรบ้าง

  • Youtube สำหรับสื่อโซเชียลหลักตัวนี้ จะเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ในการดูวีดีโอ คอนเทนต์ภายในจึงเป็นวีดีโอ เพลง หรือคลิปเสียงต่าง ๆ ซึ่งการเราสามารถพิมพ์ค้นหาข้อมูลของ Youtube ได้ทั้งจากในหน้าผลลัพธ์การค้นหาของ Search Engine หรือจะเข้าไปเสิร์ชใน Youtube โดยตรงก็สามารถทำได้
  • Instagram แอปพลิเคชั่นนี้จะมีการแสดงผลทั้งรูปภาพ และวีดีโอขึ้นมา ซึ่งผู้สนใจสามารถเลือกดู และค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ผ่านช่องค้นหาภายในแอพ ซึ่งมักจะใช้การค้นหาตาม #Hashtag
  • Facebook เป็นโซเชียลมีเดียที่ใช้ในการพูดคุย สร้างปฎิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มคน จึงมีเครื่องมือให้ใช้ค้นหาข้อมูลภายในระบบได้ โดยมักจะใช้ #Hashtag เช่นเดียวกับ Instagram นอกจากนี้เรายังสามารถทำให้คอนเทนต์บน Facebook Page ของเราถูกค้นหาเจอบน Search Engine ได้อีกด้วย
  • Line สำหรับแพลตฟอร์มนี้ เน้นใช้ในการพูดคุยเป็นหลัก สำหรับข้อมูลที่มีให้เราเสิร์ชหาได้จะเป็นข้อมูลจาก Line Today โดยใช้คีย์เวิร์ดต่าง ๆ ในการค้นหา
  • Messenger เป็นอีกแพลตฟอร์มที่ใช้ในการพูดเช่นเดียวกันกับ Line และไม่ได้มีให้ค้นหาข้อมูลอื่น ๆ ได้
  • Tiktok เป็นแอปพลิเคชั่นที่โชว์คอนเทนต์เป็นวีดีโอต่าง ๆ ซึ่งผู้เล่นสามารถเข้าไปพิมพ์ค้นหาคอนเทนต์ที่สนใจได้ และมี #Hashtag ที่รวบรวมคอนเทนต์ประเภทเดียวกันได้ด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้นหา
  • Pinterest เป็นสื่อโซเชียลที่รวบรวมภาพต่าง ๆ เอาไว้ เพื่อเป็น Inspriration ให้กับผู้เล่น แอปพลิเคชั่นนี้จึงมีช่องค้นหาไว้ให้ผู้เล่นสามารถค้นหาข้อมูลภาพต่าง ๆ บนแอปได้ แต่จะไม่ได้ใช้ #Hashtag เหมือนกับ Social Media อื่น ๆ
  • Twitter เป็นช่องทางในการอัพเดทข่าวสารต่าง ๆ ที่รวดเร็ว และเป็นอีกโซเชียล ที่ใช้ #Hashtag ในการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เวลาที่ผู้เล่นจะค้นหาข้อมูลจึงมักจะค้นหาจาก #Hashtag

จากข้อมูลข้างต้นข้างต้นจะเห็นว่า การค้นหาข้อมูลในโซเชียลมีเดียจะมี 2 รูปแบบหลัก ๆ คือค้นจากหน้า Search Engine กับเข้าไปค้นหาจากในโซเชียลมีเดียนั้น ๆ โดยตรง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ #Hashtag ในการจัดกลุ่มคอนเทนต์ที่เหมือนกันเข้าด้วยกัน แต่ทั้งนี้ผู้ใช้จะเสิร์ชจาก #Hashtag หรือใช้คำทั่วไปในการค้นหาก็ได้เช่นกัน

ทั้งนี้หากธุรกิจใดต้องการทำให้โซเชียลมีเดียของตนเองติดอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาใน Search Engine ก็สามารถใช้วิธีการทำ Search Engine Optimization (SEO) ในการทำได้ ซึ่งผู้อ่านสามารถคลิกไปอ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับ SEO ได้ที่นี่ค่ะ

ส่วนในด้านการปรับแต่ง #Hashtag หรือทำให้ผู้เล่นโซเชียลมีเดียสามารถค้นหาข้อมูลของเราได้ในโซเชียลมีเดีย ต่าง ๆ นั้น เราจะพูดถึงกันในบทความนี้ค่ะ

การปรับแต่งคอนเทนต์ให้ติด Search ในโซเชียลมีเดีย

สำหรับแนวคิดในการทำ Social Media Search Optimization นี้สามารถใช้ได้ทั้งคอนเทนต์ที่มีการใช้ #hashtag และคอนเทนต์ทั่วไปนะคะ แต่จะเน้นหนักไปที่ #hashtag เป็นหลักค่ะ

เริ่มต้นที่ข้อแรก เลือกคำที่อยากให้คนเสิร์ชแล้วเจอเรา

โดยก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า เราอยากให้ผู้เล่นโซเชียลมีเดียที่มีความต้องการแบบไหนที่จะเสิร์ชแล้วเจอกับคอนเทนต์ของเรา เราต้องกำหนด Keywords ที่ตอบสนองต่อความต้องการของคนเหล่านั้น

หลังจากนั้นให้เราเอาคีย์เวิร์ดที่เราลิสไว้ไปลองดูว่า คำไหนคนเสิร์ชเยอะ คำไหนคนเสิร์ชน้อย โดยลองเสิร์ชใน Facebook, Twitter หรือ Instagram แล้วดูว่าโซเชียลมีเดียเหล่านั้นมีแนะนำคำอะไรมาบ้าง หลังจากนั้นให้ลองเข้าไปที่ hashtagify.me เพื่อดูว่า #Hashtag ที่เราจะเลือกใช้เป็นที่นิยมขนาดไหน

การปรับแต่งคอนเทนต์ให้ติด Search ใน Social Media
ตัวอย่างการลองเสิร์ชเพื่อหา #Hashtag ที่เหมาะสม

แต่ไม่ว่าเราจะเลือกใช้ #Hashtag อะไร สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงอีกข้อนอกจากความฮิตแล้วคือ คำที่เราเลือกใช้สามารถสื่อสารได้ตรงกับคอนเทนต์ที่เราต้องการนำเสนอหรือยัง หากเป็นคำฮิต แต่ไม่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการนำเสนอก็ไม่ควรที่จะนำมาใช้นะคะ

ทำคอนเทนต์โดยมีการใช้ #hashtag ที่เลือกมา

หลังจากที่เราได้ #hashtag หรือ Keywords มาแล้ว ให้เราพยายามนำ Keyword หลัก 1-2 คำใส่ไว้ในหัวข้อของภาพ หรือวีดีโอของเรา และใส่ #hashtag อื่น ๆ ไว้ในเนื้อหาของคอนเทนต์ หรือหากมีช่องสำหรับใส่ #hashtag โดยเฉพาะให้ใส่ที่ช่องนั้น ๆ

ทั้งนี้เราต้องหมั่นทำคอนเทนต์ให้สม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหาให้กับคอนเทนต์ของเราด้วยนะคะ


และนี่ก็คือแนวคิดในการปรับแต่งให้คอนเทนต์ของเรามีโอกาสแสดงผลเวลาที่มีคนค้นหาบนโซเชียลมีเดียค่ะ จริง ๆ แล้วแนวคิดก็ไม่ได้แตกต่างจากการปรับแต่งคอนเทนต์ของการทำ Search Engine Optimization (SEO) มากนักนะคะ เพียงแต่เปลี่ยนจาก Keywords ที่เป็นคำ ๆ มาเป็น #Hashtag เท่านั้นเองค่ะ


อ้างอิง