Google Shopping Ads เป็นรูปแบบการโฆษณาสินค้าที่สามารถช่วยเพิ่ม Conversion Rate ได้สูงถึง 9 เท่า … บทความนี้เราเลยรวบรวมเอาข้อมูลทุกเรื่องที่คุณควรรู้ เกี่ยวกับโฆษณาที่เรียกว่า Google Shopping มาไว้ให้เป็นคำตอบของคุณ
สำหรับใครที่อยากฟังเป็นคลิปเสียงสามารถฟังได้ที่ Youtube หรือ Soundcloud
เนื้อหาในบทความ
Google Shopping Ads คืออะไร
Shopping Ads เป็นโฆษณาสินค้าของกูเกิ้ล โดยโฆษณาตัวนี้จะเน้นการแสดงผลข้อมูลสินค้าให้กับผู้ที่มีแนวโน้มจะสั่งซื้อได้เห็น โดยจะแสดง ภาพสินค้า, ราคา และชื่อร้านค้า ให้ผู้ค้นหาได้เห็นตั้งแต่เริ่มแรก ทำให้คนที่คลิกที่โฆษณา จะเป็นคนที่สนใจในตัวสินค้าจริง ๆ เน้นการโฆษณาสินค้าเพื่อให้ผู้ค้นหาคลิกสั่งซื้อได้ทันที
นอกจากนี้โฆษณาประเภทนี้ยังมีการใช้ AI ที่เรียกว่า Smart Shopping Campaign ซึ่งเป็นรูปแบบแคมเปญที่จะสร้างการทำงานของโฆษณาในรูปแบบ Smart Bidding ที่จะช่วยให้โฆษณาของเราเข้าถึงผู้ชมได้ถูกที่ ถูกเวลา และตรงกับคนที่ต้องการค้นหามากขึ้น
Smart Shopping Campaign คืออะไร
Smart Shopping Campaing เป็นระบบการลงโฆษณาด้วย AI ของ Google ที่จะช่วยทำให้การลงโฆษณาของคุณง่ายขึ้น แต่ได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า Smart Shopping Campaing จะช่วยคุณสร้าง Smart Bidding เพื่อเลือกการแสดงผลโฆษณาไปถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้ตรงที่สุด โดยการเลือกคีย์เวิร์ดให้กับคุณ และยังเลือกว่าใครควรจะเป็นคนที่เห็นโฆษณาของคุณ ถึงแม้ว่าลูกค้าจะค้นหาข้อมูลด้วยคำค้นหา (Keyword) เดียวกัน แต่หากเขาคนนั้นไม่มีแนวโน้มที่ Smart Shopping มองได้ว่าเขาจะอยากซื้อสินค้าของคุณ โฆษณาของคุณก็จะไม่แสดงผลที่เขาคนนั้น นอกจากนี้ Smart Shopping Campaign ยังช่วยคุณในการเลือกพื้นที่แสดงผลโฆษณา และทำโฆษณาในรูปแบบ Remarketing อีกด้วย
– เพราะยอดขายคือเป้าหมายของ Smart Shopping
AI ของ Google จะประมวลผลข้อมูลและช่วยคำนวณการแสดงโฆษณาให้คุณอัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายเดียว คือ คุณจะต้องได้รับอัตราการสั่งซื้อสูงสุด ในงบโฆษณาที่ต่ำที่สุด แน่นอนว่าคุณจะจ่ายก็ต่อเมื่อมีลูกค้าคลิกเท่านั้น
– Smart Shopping Campaign ช่วยให้คุณเข้าถึงคนกว่าพันล้าน
ให้คุณได้โดดเด่นต่อหน้าคนกว่าพันล้านที่พร้อมจะสั่งซื้อสินค้าของคุณ ไม่ว่าพวกเค้ากำลังค้นหากูเกิล หรือกำลังดู Youtube หรือจะอ่านข่าว บล็อกคนดัง ท่องเว็บไซต์ แม้แต่ขณะที่เช็คอีเมล สินค้าของคุณก็จะไปปรากฏให้เห็นได้ในทุกที่อัตโนมัติ
– Smart Shopping ช่วยติดตามให้กลับมาด้วย Remarketing
ระบบ Remarketing จะช่วยให้ลูกค้าบางคนที่สนใจสินค้าของคุณ เข้าเว็บดูรายละเอียดแล้วแต่ยังไม่สั่งซื้อ ณ ตอนนั้น ระบบจะบันทึกข้อมูลพร้อมติดตามลูกค้าไปยังที่ต่าง ๆ และแสดงโฆษณาในตำแหน่งและเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กลับเข้าเว็บของคุณอีกครั้ง
โฆษณา Google Shopping แสดงผลที่ไหนบ้าง
พื้นที่การแสดงผลของ Google Shopping แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มพื้นที่ ตามลักษณะของโฆษณาคือ 1. กลุ่มโฆษณาที่แสดงเมื่อมีผู้ค้นหา กับ 2. กลุ่มโฆษณาที่แสดงในรูปแบบ Remarketing ซึ่งจะมีพื้นที่การแสดงผลต่าง ๆ ดังนี้
- กลุ่มโฆษณาที่แสดงเมื่อมีผู้ค้นหา (Search Result)
การโฆษณาในรูปแบบนี้จะแสดงผลขึ้นมาเมื่อมีผู้ค้นหาด้วย Keyword ที่ตรงกับสินค้าของเรา และเขาคนนั้นมีแนวโน้มที่ Google มองว่าจะมีโอกาสซื้อสินค้าของเรา ซึ่งเขาอาจจะเคยเข้า หรือไม่เคยเข้าเว็บไซต์ของเราก็ได้ โดยจุดที่แสดงโฆษณาในรูปแบบนี้จะมี 3 จุด คือ
- ผลลัพธ์การค้นหาใน Google Search และ Search Partners
- ผลลัพธ์การค้นหาในแท็บ Image ของ Google Search
- ผลลัพธ์การค้นหาในแท็บ Shopping ของ Google Search
- กลุ่มโฆษณาที่แสดงในรูปแบบ Remarketing
โฆษณาในส่วนนี้จะแสดงผลขึ้นกับกลุ่มคนที่เคยเข้าเว็บไซต์ของเราเท่านั้น การแสดงผลในรูปแบบนี้จะเรียกว่าการทำ Remareketing ซึ่งเป็นการทำโฆษณาที่ใช้ในการเรียกให้ลูกค้าเก่าได้กลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง ทั้งนี้จุดที่โฆษณาสินค้าจะแสดงผลมีดังนี้
- Google Display Network
- Youtube
- Gmail
โฆษณาสินค้าต่างจากโฆษณาของกูเกิ้ลปกติอย่างไร
อีกคำถามยอดฮิตสำหรับคนโฆษณาคงจะหนีไม่พ้นที่ว่า แล้วโฆษณารูปแบบนี้ต่างจากโฆษณาอื่น ๆ ของกูเกิ้ล อย่างไร ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่าโฆษณาสินค้ารูปแบบนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการโฆษณาผ่านกูเกิ้ลแต่ใช้สำหรับจุดประสงค์ในการโฆษณาสินค้า ที่เน้นผลลัพธ์ที่ยอดขายโดยตรง ซึ่งจะต่างกับการโฆษณาอื่น ๆ ที่ก็จะมีจุดประสงค์ในการทำแตกต่างกันเช่น Google Text Ads เป็นโฆษณาในการให้ข้อมูลของสินค้าหรือบริการ, โฆษณาบน Google Discovery ใช้ในจุดประสงค์ที่จะ Awaress ข้อมูลของสินค้าหรือบริการของเราออกไปให้มากที่สุด โดยไม่ได้มองที่ผลลัพธ์ด้านยอดอขายเหมือนโฆษณาแบบโฆษณาประเภทนี้นั่นเองค่ะด้วยรูปแบบโฆษณาที่มีรูปสินค้า ดึงดูดให้ลูกค้าคลิกชมมากขึ้น ส่งผลให้สามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่า
โฆษณา Shopping Ads ต่างจาก Facebook Ads อย่างไร
ต้องบอกว่าความแตกต่างหลักของโฆษณาสินค้าในกูเกิ้ลกับ Facebook Ads คือ “พื้นที่การแสดงผลโฆษณา” ซึ่งแต่ละแพทฟอร์มก็จะมีพื้นที่การแสดงผลโฆษณาของตนเองที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องปฎิเสธไม่ได้ว่า เมื่อคนต้องการหาข้อมูล คนยัง “ค้นหา” ใน Google จุดนี้เองที่ทำให้โฆษณาสินค้าของกูเกิ้ลเข้าถึงคนที่มีความต้องการได้มากกว่าการทำโฆษณาใน Facebook
แต่อย่างไรก็ตามคุณก็สามารถเชื่อมข้อมูลการลงโฆษณาของทั้ง Google และ Facebook เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธภาพการโฆษณาให้มากที่สุดได้เช่นกันนะคะ
สนใจลงโฆษณาสินค้าในรูปแบนี้ผ่าน LnwShop Pro ติดต่อที่ปรึกษาธุรกิจของคุณ หรือ กรอกข้อมูลที่นี่เพื่อให้เราติดต่อกลับได้เลยค่ะ
ที่มา – โฆษณษา Google Shopping คืออะไร เป็นโฆษณารูปแบบไหน ทำไมช่วยแบรนด์เพิ่มยอดขายสูงถึง 9 เท่า
Leave a Comment