11 Martech ตัวช่วยดี ๆ สำหรับการขายของออนไลน์

Martech หรือ Marketing Technology เป็นสิ่งที่นักการตลาดออนไลน์หยิบมาใช้ในการทำการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ มานานแล้ว แต่หลาย ๆ คนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าเครื่องมือมาร์​เทคในท้องตลาดตอนนี้มีอะไรน่าสนใจ และถ้าเราเป็นคนขายของออนไลน์ หรือนักธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เราจะหยิบเอา Marketing technology ตัวไหนมาใช้กับอีคอมเมิร์ซของเราดี บทความนี้จาก LnwShop Pro จึงขอรวบรวม 11 เครื่องมือจาก 6 หมวดที่เหมาะกับอีคอมเมิร์ซมาแนะนำกันค่ะ

Martech

สำหรับหมวดหมู่ของ Marketing technology ที่เราจะนำมาแนะนำ เราจะอิงจาก Thailand Martech Report 2023 ที่จัดทำโดย Content Shifu กับ Hummingbirds Consulting โดยจะมี 6 หมวดดังนี้ 1. Advertising & Promotion 2. Content & Experience 3. Social & Relationships 4. Commerce & Sales 5. Data 6. Collaboration & Management

11 Martech จาก 6 หมวด สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

หมวด Advertising & Promotion

Google Ads

สำหรับ Google Ads น่าจะเป็นเครื่องมือทำโฆษณาที่คนขายของออนไลน์คุ้นเคยกันอย่างดี ซึ่งการทำโฆษณาผ่าน Google Ads นี้จะเหมาะมากกับช่วงที่ผู้ซื้อมีความต้องการในตัวสินค้าแล้ว และกำลังมองหาข้อมูลเพื่อทำการสั่งซื้อ หรือที่เรียกว่าช่วง ZMOT (Zero Moment of Truth)

แต่ที่จริงแล้ว Google Ads ก็ยังทำงานได้มากกว่านั้น เพราะคุณอาจจะลงเพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการอยากซื้อ จากการทำโฆษณาใน  Youtube หรือ กระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำด้วยการทำ Remarketing Ads ก็ได้เช่นเดียวกัน

Facebook Business Ads Manager

Facebook Ads หรือในตอนนี้ต้องเรียกว่า Meta Ads เป็นศูนย์กลางการทำโฆษณาของทั้ง Facebook และ Instagram ซึ่งตัว Business Ads Manager นี้ นอกจากที่จะให้เราสร้างโฆษณาได้แล้ว ยังสามารถใช้ในการสร้างกลุ่มเป้าหมาย และวิเคราาะห์ วัดผลการทำโฆษณาได้อีกด้วย

ทั้งนี้รูปแบบโฆษณาที่เหมาะที่สุด สำหรับการทำผ่าน Facebook และ Instragram ก็เห็นจะหนีไม่พ้นการโฆษณาที่กระตุ้นให้ผู้ซื้อเกิดความต้องการในการซื้อ ผ่านทางรูปภาพหรือวีดีโอนั่นเอง แต่ก็เช่นเดียวกันกับ Google Ads การทำโฆษณาผ่าน Meta ยังสามารถทำโฆษณาแบบ Retargeting เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำได้เช่นเดียวกัน

Google Ads เหมาะกับคนที่มี Need อยู่แล้ว ส่วน Facebook/Instagram Ads เหมาะกับการกระตุ้น Need

หมวด Content & Experience

Canva

การสร้างคอนเทนต์ให้ดึงดูดผู้ซื้อถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งในการทำอีคอมเมิร์ซ Marketing technology อย่าง Canva จึงเป็นที่นิยมมาก เพราะ Canva สามารถให้คุณสร้างภาพ และวีดีโอ สำหรับนำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นกราฟฟิคดีไซน์ ก็สร้างคอนเทนต์ที่มีความสวยงามได้ไม่ยาก

โดย Canva จะเป็น Marketing Technology ที่ให้บริการแบบ Freemium นั่นก็คือคุณสามารถเข้าไปใช้บริการได้ฟรี แต่หากต้องการเพิ่มความสามารถ เช่น การหาภาพสวย ๆ หรือ แชร์การทำงานกับทีม ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

Google Trends

อีกเครื่องมือที่อยากแนะนำให้กับคุณได้ใช้งาน นั่นก็คือ Google Trends เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดคุณภาพ และแนวโน้มที่กำลังมาแรง Google Trends จะช่วยให้การเขียนคอนเทนต์ของสินค้า หรือคอนเทนต์ในการทำโฆษณาของคุณตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้นโดยไม่ต้องนั่งเทียนคิดเองเออเอง ซึ่ง Google Trends สามารถเลือกวิเคราะห์ Keyword แยกตามแต่ละพื้นที่ และยังกำหนดช่วงเวลาในการวิเคราะห์ได้อีกด้วย – คุณสามารถดูรายละเอียดของ Google Trends ที่เราเล่าไว้แล้วเพิ่มเติมได้ที่นี่

หมวด Social & Relationships

Google Alerts

Martech เก่าแก่ที่หลายคนอาจจะลืมชื่อนี้กันไปแล้ว แต่ยังใช้งานได้ดีในการ Monitor ว่ามีใครพูดถึงแบรนด์ของเราบนโลกออนไลน์ เพื่อที่เราจะได้เข้าไปพูดคุยโต้ตอบ หรือกระทั่งการแก้ข่าวด้านลบที่จะทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์เราเสียหายได้

นอกจากนี้ Google Alerts ยังช่วยให้คุณมอนิเตอร์ได้ด้วยว่าตอนนี้ในโซเชียลมีใครกำลังพูดถึงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของเรา เช่น หากคุณขายเสื้อแฟชั่นฤดูหนาว คุณอาจจะอยากติดตามว่ามีใครแฟชั่นฤดูหนาว เพื่อดูว่ามีใครเป็นคู่แข่งเรา เกิดอะไรขึ้นในตลาด หรือกระทั่งกลุ่มเป้าหมายของเราคุยอะไรกันก็ทำได้

หมวด Commerce & Sales

LnwShop Pro

สำหรับหมวดนี้คงหนีไม่พ้นที่เราจะพูดถึงบริการ LnwShop Pro แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับธุรกิจองค์กร ที่รวมระบบบริหารจัดการงานด้านอีคอมเมิร์ซไว้แบบ End to end ซึ่ง Key feature ของ LnwShop Pro มีดังนี้

  • ระบบหน้าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ สำหรับสร้างหน้าเว็บ Brand.com
  • ระบบเชื่อมต่อช่องทางการขาย ตัดสต๊อกรวมที่เดียวกัน ป้องกันสต๊อกรวน
  • ระบบ Product Management จัดการข้อมูลสินค้าที่เดียว Sync ได้ทุกที่
  • ระบบเชื่อมต่อการทำโฆษณา Google Ads, Facebook Ads
  • ระบบ Affiliate Marketing และ ตัวแทนขาย

โดยค่าบริการของ LnwShop Pro นั้นเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,900 บาท สำหรับแบรนด์ออนไลน์ใดที่ต้องการใช้บริการ สามารถติดต่อพูดคุยกับทีมงาน LnwShop Pro ได้ที่นี่

หมวด Data

Google Analytics

สำหรับหมวดนี้เราขอแนะนำ Google Analytics ระบบที่จะช่วยคุณรวบรวมข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น มีคนเข้าเว็บกี่คน เข้ามาจากที่ไหนบ้าง แคมเปญการตลาดไหนที่ปัง รวมถึงยังสามารถเชื่อมต่อการวัดผลกับ Google Ads ได้

ซึ่งสำหรับใครที่สร้างเว็บไซต์ Brand.com จะสามารถใช้ Google Analytics ในการเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ Data ต่าง ๆ ได้ฟรี และยังสามารถนำไปเชื่อมต่อกับระบบอย่าง Google Data Studio เพื่อทำรีพอร์ตในรูปแบบที่อ่านง่ายไว้นำเสนอในทีม ทำให้ทั้งทีมมองเห็นภาพไปในทิศทางเดียวกัน และส่งผลให้สามารถสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพที่ดี

bit.ly

Bit.ly

หากเราอยากรู้ว่าคนคลิกลิงก์ของเรามากน้อยแค่ไหน และในแต่ละช่องทางที่เราปล่อยลิงก์ออกไปได้ผลตอบรับเป็นอย่างไร Bit.ly ช่วยคุณได้

Bit.ly เป็นระบบที่ช่วยทำให้ลิงก์ของคุณมี UTM (Urchin Tracking Modules) ซึ่งเป็นพารามิเตอร์ในการเก็บข้อมูลแยกในลิงก์ปลายทางเดียวกัน เพื่อที่จะใช้ในการวัดผลว่าลิงก์ที่เราปล่อยไปในแต่ละช่องทางผลตอบรับเป็นอย่างไร แต่ตามปกติเมื่อเราใส่ UTM ไป ลิงก์มักจะยาวมาก ตัวระบบของ Bit.ly ก็จะช่วยในการย่อลิงก์ให้คุณอีกด้วย

หมวด Collaboration & Management

Trello

ในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซเราต้องทำงานร่วมกันกับหลากหลายคนในทีม Trello จะมาช่วยให้เราสามารถสร้าง Task ให้กับตัวเองและคนในทีม กำหนดเดดไลน์ รวมถึง Tracking สถานะของงานนั้น ๆ ได้ ซึ่ง Trello มีการคิดค่าบริการแบบ Freemium แต่บอกเลยว่าแค่ระบบฟรี ก็ใช้งานได้แบบจัดเต็มแล้วล่ะ

Asana

ระบบบริหารจัดการ Task อีกตัวที่อยากแนะนำก็คือ Asana ระบบที่ช่วยให้คุณทำลิส Task งานที่ต้องทำได้อย่างง่ายดาย สามารถแท็กเจ้าของงาน มอบหมายงานให้เพื่อนร่วมงาน กำหนดเดดไลน์ หรือพูดคุยกันใน Task นั้น ๆ ก็ทำได้เช่นกัน

Airtable

Airtable จะซับซ้อนขึ้นมาจาก Task Management สองตัวแรกที่เราแนะนำ แต่มีข้อดีคือใช้งานได้กึ่ง ๆ Excel ผสม Task Management สามารถสร้างระบบอัตโนมัติในการทำงานต่าง ๆ แทนเราได้ รวมถึงมีการทำงานแบบ Excel ที่สามารถคำนวณข้อมูลต่าง ๆ หรือสร้างตารางเก็บข้อมูลงานให้เราได้อีกด้วย


และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของมาร์เทคที่คนขายของออนไลน์สามารถหยิบไปใช้กับการทำธุรกิจได้ สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ยังไงอย่าลืมนำไปลองใช้งานกันดู หรือว่ามี Marketing technology อื่นที่น่าสนใจก็มาแชร์กันได้นะคะ


อ้างอิง Thailand’s Martech Report 2023